วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

Chevrolet Cruze 2011


General Motors เตรียมเปิดตัวรถแต่งพิเศษสำหรับ Cruze ปี 2011 เพื่อให้มั่นใจว่าจะต่อกรกับคู่แข่งอย่าง Honda Civic และ Ford Focus ในตลาดอเมริกาได้อย่างสมศักดิ์ศรี โดยรถแต่งเวอร์ชั่นแรกก็คือ Cruze RS ที่มีให้เลือกสำหรับรุ่น LT และ LTZ โดยการปรับแต่งจะมีขึ้นที่ด้านหน้าของรถ ร็อคเกอร์ด้านข้าง สปอยเลอร์หลัง และไฟตัดหมอก ส่วนภายในบริเวณมาตรวัดจะมีการแต่งขอบโครเมี่ยม รถแต่งอีกเวอร์ชั่นหนึ่งก็คือ Cruze ECO ที่มาพร้อมกับการใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ 1.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 40 ไมล์/แกลลอน สำหรับการขับนอกเมือง ส่วนตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองฯสำหรับการขับในเมืองจะมีการเปิดเผยในภายหลัง Cruze ECO ไม่ได้มากับการอัพเกรดทางด้านเครื่องยนต์เพียงเท่านั้น แต่ยังมีอุปกรณ์อื่นๆอีก เช่น ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา พร้อมยางต้านทานการหมุนแบบต่ำสุดๆ รวมถึงการลดระดับความสูงของรถลงไปอีกด้วย ดูเหมือนว่าด้านหน้าของรถทั้งสองรุ่นจะมีการออกแบบให้เป็นไปตามหลัก อากาศพลศาสตร์มากขึ้น โดยช่องอากาศที่กระจังหน้าชั้นล่างจะปิดในระดับความเร็วสูงเพื่อเหตุพลทาง อากาศพลศาสตร์และเปิดในระดับความเร็วต่ำเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศในการ ระบายความร้อนได้อย่างเหมาะสม ระบบส่งกำลังของ Cruze จะเน้นไปที่การช่วยขับเพื่อประหยัดน้ำมันมากกว่าความสนุกในการขับขี่ โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถทำได้ภายในเวลา 10 วินาทีสำหรับเกียร์ธรรมดา และต่ำกว่า 9 วินาทีสำหรับเกียร์อัตโนมัติ แต่ก็มีข่าวถือว่าจะมีเวอร์ชั่น SS สไตล์สปอร์ทที่แรงกว่านี้จะตามออกมาติดๆครับ


สำหรับจุดเด่นของเชฟโรเลต ครูซ คือเครื่องยนต์มีให้เลือก 3 แบบ โดยในรุ่นสูงสุด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า เครื่องยนต์คอมมอนเรล ดีเซล เทอร์โบแปรผัน ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว SOHC พร้อมระบบ VCDi ควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มอัตราความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษ พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 320 นิวตัน-เมตร ส่วนอีกรุ่น 1.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดที่ 141 แรงม้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC ซึ่งเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 177 นิวตัน-เมตร
นอกจากนี้ เชฟโรเลต ครูซ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 109 แรงม้า ยังมาพร้อมกับขุมพลังเบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมระบบปรับระยะทางเดินท่อไอดีแบบแปรผัน Variable Geometry Intake System (VGiS) แรงบิดสูงสุดที่ 150 นิวตัน-เมตร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติครูสคอนโทรลที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงวิทยุและเครื่องเล่นซีดี 1 แผ่น ซึ่งผู้ขับขี่ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมทั้ง Auxiliary และ USB อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายแบบ Bluetooth เข้ากับเครื่องเสียง

ด้านระบบส่งกำลังของเชฟโรเลต ครูซ ประกอบไปด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม DSC (Driver Shift Control) ทำงานควบคู่กับระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ตอบสนองทุกการขับขี่และให้อัตราเร่งในช่วงความเร็วต่ำ และมีอัตราเร่งแซงอย่างมั่นใจในช่วงความเร็วสูง นอกจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแล้ว เชฟโรเลต ครูซ ยังมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในรุ่นเครื่องยนต์แบบ 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร
นอกจากนั้นแล้วยังมีข้อเสนอพิเศษกับอัตราค่าบำรุงรักษาต่ำสุด ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อยืดระยะการเข้ารับการ ตรวจเช็กตามระยะให้นานขึ้นกว่าเดิมที่ 15,000 กม. ซึ่งต่างจากรถยนต์รุ่นอื่นที่เช็กระยะทุกๆ 10,000 กม.  ราคาเริ่มต้น 7.29 แสนบาท คาดว่ายอดจองในไตรมาสแรกของปี 54 มากกว่า 1.1หมื่นคันนอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ เชฟโรเลต ครูซ2010 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 แบบคือ ดีเซล 2.0 ลิตร เบนซิน 1.8 และ 1.6 ลิตร พร้อมเปิดราคาเริ่มต้นตั่งแต่ 729,000 – 1,149,000 บาท

ค่าตัวซิตี้คาร์ Mazda MAZDA3 2011


 รถยนต์ รุ่นนี้ของ Mazda ถือได้ว่า เป็นรุ่นที่ประสพความสำเร็จ ที่สุดของ Mazda ก็ว่าได้ เพราะมียอดขายทั่วโลกถึง 1.8 ล้านคัน และนอกจากนั้นยังได้รับรางวัล จากสถาบันต่างๆ กว่าอีก 90 สถาบัน และสำหรับ Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ ก็ได้ยึดแนวทางการออกแบบรถที่ตื่นเต้นเร้าใจสไตล์ Zoom-Zoom แบบเดิม  โครงสร้างใหม่ของ Mazda3 โดยเฉพาะโครงสร้างรอบห้องโดยสารจะใช้เหล็กที่มีความแข็งแกร่งขึ้น 17% เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า วัสดุที่ใช้ซับแรงสั่นสะเทือนก็ได้ปรับปรุงให้มีคุณภาพมากขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกก็ออกแบบตามหลักแอโรไดนามิกส์ ช่วยลดเสียงลมปะทะ ได้ประมาณ 6-11% นอกจากนี้ Mazda ยังกล่าวว่า Mazda3 ใหม่ มีนํ้าหนักตัวลดลงจากรุ่นเดิมประมาณ 15 กก. แม้ว่าจะมีมิติที่ใหญ่ ขึ้นและติดตั้งอุปกรณ์มากขึ้นก็ตาม
สำหรับ“มาสด้า 3 โฉมใหม่” จะย้ายฐานการผลิตจากฟิลิปปินส์ มายังประเทศไทย โดยใช้โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ (เอเอที)จังหวัดระยอง ซึ่ง กำลังเคลียร์ไลน์ให้พร้อมผลิตตั้งแต่ปลายปีนี้ ส่วนตัวรถจะพร้อมทำตลาดจริงไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2554 สำหรับโมเดลเชนจ์ของ “มาสด้า 3” หรือ “เอ็กเซลล่า”ในญี่ปุ่น เริ่มทำตลาดที่บ้านเกิด รวมถึงยุโรป และอเมริกา มาเกือบ 2 ปีแล้ว กับหน้าตาสปอร์ตปราดเปรียว บนสองตัวถังซีดาน และแฮตซ์แบ็ก 5ประตู ส่วนเครื่องยนต์มีทั้งเบนซินขนาด 1.6 ลิตร 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตรสำหรับตลาดอเมริกา ขณะที่ดีเซลมีบล็อก 1.6 ลิตรและ 2.2 ลิตร ซึ่งการทำตลาดบ้านเราคงหนีไม่พ้นสองทางเลือกแรก


ราคา 2011มาสด้า 3 จะเปิดตัวทีเท่าไหร่ ดูข้อมูลเดิมก่อน ราคามาสด้า 3 ปี 2010
Maxx(2000 cc) 966,000 Baht
Spirit(1600 cc) 830,000 Baht
Groove (1600 cc) 755,000 Baht

ตัวใหม่ คงไม่น้อยหน้ากว่านี้แน่นอน ผมประเมินไว้ที่ 8 แสน ต้นๆ สำหรับเครื่อง 1.6 , 1 ล้าน สำหรับ 2.0 เครื่อง 2.5 คงไม่นำมาเปิดที่ตลาดของไทย เพราะ ในภูมิภาคเดียวกัน ที่ตลาดมาเลเซีย ก็ไม่มี 2.0 ออกมาขายเช่นเดียวกัน ทำไมถึงประเมินราคาแบบนี้ เพราะจากข้อมูลของ mazda3 ปี 2010 ของ yahoo ว่า เขา เปิดราคาที่เท่าไหร่ และ ไทยเราเปิดราคาที่เท่าไหร่ าคา 2010 Mazda MAZDA3 MSRP $15,345 – $22,145 , Invoice $14,387 – $20,734 ดังนั้น ราคาที่เมืองไทย ของ 2010 มาสด้า3 วิ่ง อยู่ที่ 755,000 – 966,000 ไม่คิดตัว Top ที่ ล้าน ต้นๆ หากคิดอัตราแลกเปลี่ยน ที่30บาท/$ , คำนวนเปรียบเทียบตรงๆ ราคา จะเป็น 431,610 -622,020 บาท แต่ ราคาที่เปิดตัวที่เมืองไทย มันต้องบวกโน่นนี่เพิ่ม เอาเป็นว่า สรุป 2010 ไทยเราเปิดตัว ด้วยราคาหากอ้างอิงที่ Yahoo จะบวกเพิ่ม ประมาณ 120%

แล้วปีหน้า มาสด้า 3 ตัวใหม่จะราคาเท่าไหร่
ราคา 2011 Mazda MAZDA3 ( Auto.yahoo.com)
4-Door $15,450 2.0L 148 HP
Sport 4-Door $16,355 2.0L 148 HP
Touring 4-Door $17,950 2.0L 148 HP
Sport 4-Door $19,185 2.5L 167 HP
Sport 5-Door $19,685 2.5L 167 HP
Grand Touring 4-Door $22,395 2.5L 167 HP
Grand Touring 5-Door $22,895 2.5L 167 HP

ราคานี้เป็นราคาที่ประกาศทางเวปไซด์ของ yahoo auto,หาก + 120% ของราคา
ราคาต่ำสุดเครื่อง 2.0 = 15,450$ *2.20 *30 = 1 ล้าน
ราคาสูงสุดเครื่อง 2.5 = 22,859$*2.2*30 = 1.5 ล้าน

ราคาของ มาสด้า 3 เครื่องยนต์ 2.0 ประมาณ 1 ล้าน ต้นๆ ก็ไม่ต่างจากราคาเดิม มาก ครับ ส่วนเครื่อง 1.6 คงอยู่ที่ราวๆ 8 แสน ข้อมูลทั้งหมดเกิดจากการรวบรวมและประเมินโดยส่วนตัว ทั้งนี้ไม่ใช่ราคาเปิดตัวจริงของทางมาสด้าแต่อย่างได หากถึงเวลาเปิดตัวจริงๆ จะมา อัปเดตให้ทราบอีกครั้งครับ ตอนนี้ใครใช้ มาสด้า 2 ก็ใช้ไปก่อน ส่วนมาสด้า 3 อดใจรอดูรูปไปก่อนแล้วกัน ภาพสวยงามมาก สามารถนำไปเป็น Wallpaper ใน Notebookได้เลยครับ