General Motors เตรียมเปิดตัวรถแต่งพิเศษสำหรับ Cruze ปี 2011 เพื่อให้มั่นใจว่าจะต่อกรกับคู่แข่งอย่าง Honda Civic และ Ford Focus ในตลาดอเมริกาได้อย่างสมศักดิ์ศรี โดยรถแต่งเวอร์ชั่นแรกก็คือ Cruze RS ที่มีให้เลือกสำหรับรุ่น LT และ LTZ โดยการปรับแต่งจะมีขึ้นที่ด้านหน้าของรถ ร็อคเกอร์ด้านข้าง สปอยเลอร์หลัง และไฟตัดหมอก ส่วนภายในบริเวณมาตรวัดจะมีการแต่งขอบโครเมี่ยม รถแต่งอีกเวอร์ชั่นหนึ่งก็คือ Cruze ECO ที่มาพร้อมกับการใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ 1.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 40 ไมล์/แกลลอน สำหรับการขับนอกเมือง ส่วนตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองฯสำหรับการขับในเมืองจะมีการเปิดเผยในภายหลัง Cruze ECO ไม่ได้มากับการอัพเกรดทางด้านเครื่องยนต์เพียงเท่านั้น แต่ยังมีอุปกรณ์อื่นๆอีก เช่น ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา พร้อมยางต้านทานการหมุนแบบต่ำสุดๆ รวมถึงการลดระดับความสูงของรถลงไปอีกด้วย ดูเหมือนว่าด้านหน้าของรถทั้งสองรุ่นจะมีการออกแบบให้เป็นไปตามหลัก อากาศพลศาสตร์มากขึ้น โดยช่องอากาศที่กระจังหน้าชั้นล่างจะปิดในระดับความเร็วสูงเพื่อเหตุพลทาง อากาศพลศาสตร์และเปิดในระดับความเร็วต่ำเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศในการ ระบายความร้อนได้อย่างเหมาะสม ระบบส่งกำลังของ Cruze จะเน้นไปที่การช่วยขับเพื่อประหยัดน้ำมันมากกว่าความสนุกในการขับขี่ โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถทำได้ภายในเวลา 10 วินาทีสำหรับเกียร์ธรรมดา และต่ำกว่า 9 วินาทีสำหรับเกียร์อัตโนมัติ แต่ก็มีข่าวถือว่าจะมีเวอร์ชั่น SS สไตล์สปอร์ทที่แรงกว่านี้จะตามออกมาติดๆครับ
สำหรับจุดเด่นของเชฟโรเลต ครูซ คือเครื่องยนต์มีให้เลือก 3 แบบ โดยในรุ่นสูงสุด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า เครื่องยนต์คอมมอนเรล ดีเซล เทอร์โบแปรผัน ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว SOHC พร้อมระบบ VCDi ควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มอัตราความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษ พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 320 นิวตัน-เมตร ส่วนอีกรุ่น 1.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดที่ 141 แรงม้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC ซึ่งเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 177 นิวตัน-เมตร
นอกจากนี้ เชฟโรเลต ครูซ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 109 แรงม้า ยังมาพร้อมกับขุมพลังเบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมระบบปรับระยะทางเดินท่อไอดีแบบแปรผัน Variable Geometry Intake System (VGiS) แรงบิดสูงสุดที่ 150 นิวตัน-เมตร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติครูสคอนโทรลที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงวิทยุและเครื่องเล่นซีดี 1 แผ่น ซึ่งผู้ขับขี่ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมทั้ง Auxiliary และ USB อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายแบบ Bluetooth เข้ากับเครื่องเสียง
สำหรับจุดเด่นของเชฟโรเลต ครูซ คือเครื่องยนต์มีให้เลือก 3 แบบ โดยในรุ่นสูงสุด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า เครื่องยนต์คอมมอนเรล ดีเซล เทอร์โบแปรผัน ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว SOHC พร้อมระบบ VCDi ควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มอัตราความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษ พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 320 นิวตัน-เมตร ส่วนอีกรุ่น 1.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดที่ 141 แรงม้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC ซึ่งเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 177 นิวตัน-เมตร
นอกจากนี้ เชฟโรเลต ครูซ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 109 แรงม้า ยังมาพร้อมกับขุมพลังเบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมระบบปรับระยะทางเดินท่อไอดีแบบแปรผัน Variable Geometry Intake System (VGiS) แรงบิดสูงสุดที่ 150 นิวตัน-เมตร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติครูสคอนโทรลที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงวิทยุและเครื่องเล่นซีดี 1 แผ่น ซึ่งผู้ขับขี่ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมทั้ง Auxiliary และ USB อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายแบบ Bluetooth เข้ากับเครื่องเสียง
ด้านระบบส่งกำลังของเชฟโรเลต ครูซ ประกอบไปด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม DSC (Driver Shift Control) ทำงานควบคู่กับระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ตอบสนองทุกการขับขี่และให้อัตราเร่งในช่วงความเร็วต่ำ และมีอัตราเร่งแซงอย่างมั่นใจในช่วงความเร็วสูง นอกจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแล้ว เชฟโรเลต ครูซ ยังมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในรุ่นเครื่องยนต์แบบ 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร
นอกจากนั้นแล้วยังมีข้อเสนอพิเศษกับอัตราค่าบำรุงรักษาต่ำสุด ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อยืดระยะการเข้ารับการ ตรวจเช็กตามระยะให้นานขึ้นกว่าเดิมที่ 15,000 กม. ซึ่งต่างจากรถยนต์รุ่นอื่นที่เช็กระยะทุกๆ 10,000 กม. ราคาเริ่มต้น 7.29 แสนบาท คาดว่ายอดจองในไตรมาสแรกของปี 54 มากกว่า 1.1หมื่นคันนอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ เชฟโรเลต ครูซ2010 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 แบบคือ ดีเซล 2.0 ลิตร เบนซิน 1.8 และ 1.6 ลิตร พร้อมเปิดราคาเริ่มต้นตั่งแต่ 729,000 – 1,149,000 บาท