นั่นเป็นคำกล่าวของ “เคียวอิจิ ทานาดะ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการแถลงข่าวถึงทิศทางและนโยบายของโตโยต้าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และยังบอกว่า… “ลูกค้าคนไทยไม่เพียงต้องการรถที่ประหยัด แต่ต้องการรถที่ขับสนุก มีอัตราเร่งที่ดี นี่จึงเป็นเหตุผลให้โตโยต้าตัดสินใจเลือกรถไฮบริดทำตลาดก่อนอีโคคาร์ ที่เป็นรถเหมาะกับใช้งานในเมืองเท่านั้น”
และดูเหมือนว่ารถยนต์ไฮบริดดังกล่าว ได้เวลาจะถูกส่งมาเขย่าตลาดรถยนต์เมืองไทยแล้ว เมื่อมีรายงานข่าวว่าโตโยต้ากำหนดแผนแนะนำ “โตโยต้า พรีอุส” สู่ตลาดไทยช่วงปลายปี และจะเป็นรถตัวธงในการทำตลาดปี 2554 ที่สำคัญพรีอุสจะเป็นอีกโมเดลที่ขึ้นไลน์ผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์นั่งของโตโยต้า ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา
โตโยต้า พรีอุส รุ่นแรกถูกเปิดตัวสู่ตลาดโลกในปี 2539 ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดแบบ Mass production รุ่นแรกของโลก และนับว่าประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายเป็นอย่างมาก ปัจจุบันนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกเมื่อต้นปี 2552 และมีกำหนดทำตลาดเต็มรูปแบบทั่วโลกในปี 2553 ซึ่งหากเป็นไปตามกระแสข่าวไทยก็จะแนะนำในปีนี้ และทำตลาดเต็มที่ในปี 2554
พรีอุสเป็นรถยนต์แบบไฮบิดเต็มรูปแบบ ที่เรียกกันว่า Fully Hybrid โดยในบางจังหวะสามารถขับเคลื่อนโดยอาศัยพลังจากเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว หรือว่าจะให้ทั้ง 2 อย่างทำงานร่วมกันก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการประมวลผลและการตัดสินใจของกล่องสมองกลที่ควบคุมการทำงาน แต่สำหรับรุ่นใหม่นี้มีความเหนือชั้นกว่า เพราะโตโยต้าได้ติดตั้งปุ่ม EV Drive Mode มาให้ สำหรับให้ลูกค้าเลือกขับเคลื่อน โดยอาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังมีโหมดอื่นให้เลือกใช้งาน เช่น Power Mode สำหรับรีดกำลังจากเครื่องยนต์ ด้วยการเพิ่มความไวในการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ ที่ตอบสนองได้ทันกับการกดคันเร่ง หรือ Eco Mode สำหรับเน้นความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ระบบไฮบริดของพรีอุสเป็นแบบ Hybrid Synergy Drive หรือ HSD ซึ่งตอบสนองความเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ สันดาปภายใน แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i ที่มีความจุ 1.8 ลิตร 98 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร มีกำลังสูงสุด 80 แรงม้า แต่เมื่อรวมการทำงานของทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ขุมพลังไฮบริดรุ่นนี้สามารถตอบสนองกำลังสูงสุดได้ 134 แรงม้า ใช้เวลา 9.8 วินาที ในการทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.
พรีอุสส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT สู่การขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และมีระดับการปลดปล่อยไอเสียออกสู่อากาศตามมาตรฐาน SULEV หรือ Super Ultra Low Emission Vehicle โดยมีค่าความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 20.3 กม./ลิตร สำหรับการขับแบบผสมจากการทดสอบของ EPA ซึ่งตัวเลขดีกว่า 2 เจนเนอเรชันที่ผ่านมา นี่จึงนับเป็นทางเลือกที่ตอบสนองผู้บริโภคชาวไทย ให้ก้าวทันไปกับโลกยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง แต่นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งตามรายงานข่าวเพื่อแจ้งเกิดในตลาดไทยให้ได้ โตโยต้าจึงวางราคาของ “โตโยต้า พรีอุส” ไว้ใกล้เคียงกับ “ฮอนด้า ซีวิค” ตัวท็อป หรือประมาณล้านต้น ๆเท่านั้น
และดูเหมือนว่ารถยนต์ไฮบริดดังกล่าว ได้เวลาจะถูกส่งมาเขย่าตลาดรถยนต์เมืองไทยแล้ว เมื่อมีรายงานข่าวว่าโตโยต้ากำหนดแผนแนะนำ “โตโยต้า พรีอุส” สู่ตลาดไทยช่วงปลายปี และจะเป็นรถตัวธงในการทำตลาดปี 2554 ที่สำคัญพรีอุสจะเป็นอีกโมเดลที่ขึ้นไลน์ผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์นั่งของโตโยต้า ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา
โตโยต้า พรีอุส รุ่นแรกถูกเปิดตัวสู่ตลาดโลกในปี 2539 ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดแบบ Mass production รุ่นแรกของโลก และนับว่าประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายเป็นอย่างมาก ปัจจุบันนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกเมื่อต้นปี 2552 และมีกำหนดทำตลาดเต็มรูปแบบทั่วโลกในปี 2553 ซึ่งหากเป็นไปตามกระแสข่าวไทยก็จะแนะนำในปีนี้ และทำตลาดเต็มที่ในปี 2554
พรีอุสเป็นรถยนต์แบบไฮบิดเต็มรูปแบบ ที่เรียกกันว่า Fully Hybrid โดยในบางจังหวะสามารถขับเคลื่อนโดยอาศัยพลังจากเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว หรือว่าจะให้ทั้ง 2 อย่างทำงานร่วมกันก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการประมวลผลและการตัดสินใจของกล่องสมองกลที่ควบคุมการทำงาน แต่สำหรับรุ่นใหม่นี้มีความเหนือชั้นกว่า เพราะโตโยต้าได้ติดตั้งปุ่ม EV Drive Mode มาให้ สำหรับให้ลูกค้าเลือกขับเคลื่อน โดยอาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังมีโหมดอื่นให้เลือกใช้งาน เช่น Power Mode สำหรับรีดกำลังจากเครื่องยนต์ ด้วยการเพิ่มความไวในการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ ที่ตอบสนองได้ทันกับการกดคันเร่ง หรือ Eco Mode สำหรับเน้นความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ระบบไฮบริดของพรีอุสเป็นแบบ Hybrid Synergy Drive หรือ HSD ซึ่งตอบสนองความเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ สันดาปภายใน แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i ที่มีความจุ 1.8 ลิตร 98 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร มีกำลังสูงสุด 80 แรงม้า แต่เมื่อรวมการทำงานของทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ขุมพลังไฮบริดรุ่นนี้สามารถตอบสนองกำลังสูงสุดได้ 134 แรงม้า ใช้เวลา 9.8 วินาที ในการทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.
พรีอุสส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT สู่การขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และมีระดับการปลดปล่อยไอเสียออกสู่อากาศตามมาตรฐาน SULEV หรือ Super Ultra Low Emission Vehicle โดยมีค่าความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 20.3 กม./ลิตร สำหรับการขับแบบผสมจากการทดสอบของ EPA ซึ่งตัวเลขดีกว่า 2 เจนเนอเรชันที่ผ่านมา นี่จึงนับเป็นทางเลือกที่ตอบสนองผู้บริโภคชาวไทย ให้ก้าวทันไปกับโลกยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง แต่นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งตามรายงานข่าวเพื่อแจ้งเกิดในตลาดไทยให้ได้ โตโยต้าจึงวางราคาของ “โตโยต้า พรีอุส” ไว้ใกล้เคียงกับ “ฮอนด้า ซีวิค” ตัวท็อป หรือประมาณล้านต้น ๆเท่านั้น