เครื่องยนต์
Super Duty สามารถใช้ได้กับทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน E85 เครื่องยนต์เบนซินขนาด 6.2 ลิตร
2 วาล์ว SOHC V8 ให้แรงม้าถึง 385 แรงม้า (287 กิโลวัตต์) แรงบิด 549 นิวตัน/เมตร
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลขนาดความจุ 6.7 ลิตร เครื่อง V8 Power Stroke , กำลังสูงสุด 390 แรงม้า (291 กิโลวัตต์) และแรงบิด 997 นิวตัน/เมตร รุ่น turbodiesel เครื่อง V8 ขนาด 6.6 ลิตร Duramax, 397 แรงม้า (296 กิโลวัตต์) แรงบิด 1,037 นิวตัน/เมตร น้ำหนักบรรทุก 2,400 กิโลกรัม และสามารถต่อพ่วงน้ำหนักได้เพิ่มถึง 11,100 กก. สะใจมั๊ยครับทั่น
ส่วนภายในเรียบหรู แทบดูไม่ออกว่าเป็นรถกระบะ เพราะคอนโซลหน้าถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ต้องละสายตาจากถนนนาน สีเบจที่ดูอบอุ่นเบาะหรูพร้อมที่วางแขนและเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนกระบะหลังมีแมกซ์ลายเนอร์จากโรงงานติดมาหาเรียบร้อย หากผู้ที่ชอบแต่ง ก็ลงทุนเพิ่มอีกไม่มากเพราะค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้วแต่สิ่งที่ไม่ตอบโจทย์คือความจุกระบอกสูบที่มีมากกว่า 6 ลิตร นึกถึงตอนเติมน้ำมันแต่ละทีละก็ คงจะโขอยู่นะ แต่หากใครมีความสามารถมากพอก็ว่ากันไปลองดูราคากันเป็นดอลล่าร์แล้วคูณด้วย 35 เผื่อขาดเผื่อเหลือดูนะครับว่าเท่าไหร่ ที่เวบนี้ http://www.ford.com/trucks/superduty/ สำหรับผมกระบะเก่าก็หรูแล้วตอนนี้
Ford ได้ประกาศเปิดตัว รถกะบะ 1.5 ตันใหม่ โดยขุมพลังของ 2011 Ford F series Super Duty Pickup ใช้เครื่องยนต์ V8 6.7 ลิตร!! เทอร์โบดีเซล (บ้านเราอย่างมากก็ 3 ลิตร) รีดพลังออกมาได้ถึง 400 แรงม้า และให้แรงบิดสูงถึง 800 ปอนต์ฟุต ให้กำลังสูงกว่าเดิม 10 แรงม้า, 65 ปอนด์ฟุต
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวถังของ Ford Super Duty นี้ถูกเพิ่มความแข็งแรงขึ้น และสามารถบรรทุกหนักได้เพิ่มอีก 550 ปอนด์ รวมถึงต่อพ่วงน้ำหนักรวมถึง 22,600 ปอนด์ สำหรับลูกค้า Ford ในอเมริกา สามารถ upgrade Ford F series เพื่อเพิ่มแรงบิด และแรงม้าได้ กับ Dealer ตั้งแต่ต้นเดือนหน้าเป็นต้นไป โดยการ upgrade sofeware truck power train module เพิ่มเติม