นายมิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘รักรถ รักษ์โลก’ หรือ ‘Ecology Driving Save the Earth’ ของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 31 ทางบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยนำเสนอเทคโนโลยี Efficient Dynamics ที่เหนือชั้น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถสัมผัสได้จริงสำหรับลูกค้า เทคโนโลยี Efficient Dynamics นี้ นอกจากจะทำให้รถยนต์มีสมรรถนะสูงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเมืองไทย สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ BMW X1 ที่เพิ่งได้รับรางวัล ‘Off-Road of the Year’ ในคลาส Crossover จุดเด่นของ BMW X1 คือการที่มันเป็นรถแบบ Crossover ที่เน้นความสปอร์ตคล่องตัวอย่างมีสไตล์ ราคาอยู่ระหว่าง 3.5-3.8 ล้านบาท ในส่วนของมินิ ก็จะมีการจัดแสดงรถยนต์มินิรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี MINI 50 Mayfair และ Camden ซึ่งกำลังจะหยุดการผลิตในไม่ช้านี้ พร้อมกับการเปิดตัว BMW S 1000 RR ซึ่งเป็นซูเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู การบุกตลาดอย่างครบทุกเซ็กเมนต์ในปีนี้ ทำให้บริษัทคาดว่า จะมียอดขายเติบโตไม่น้อยกว่า 10 %
“หลังจากความสำเร็จของ BMW 740Li และ BMW 730Ld ซึ่งเป็นสุดยอดรถยนต์ระดับซูเปอร์ซาลูนสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยูได้เสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ระดับซูเปอร์ซาลูนด้วย BMW 730Li เครื่องยนต์เบนซินที่ให้สมรรถนะสูง ที่สามารถใช้พลังงานทางเลือกแก๊สโซฮอล์ E20 ได้แล้ว มันยังเป็นรถระดับซูเปอร์ซาลูนที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีที่สุดในคลาสคันหนึ่ง โดยตั้งราคาจำหน่ายเพียง 7.299 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาแนะนำสำหรับ 100 คันเท่านั้น และมีราคาถูกกว่าคู่แข่ง ประมาณ 500,000 บาท ”
ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยัง BMW 325i Sport สุดยอดแห่งสปอร์ตซีดานที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics และสามารถใช้พลังงานทางเลือกแก๊สโซ ฮอล์ E20 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 218 แรงม้า ผลิตมาจำนวนจำกัดเพียง 48 คันนี้ ในราคา 3.799 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทยังเปิดตัว BMW 318i รุ่นเริ่มต้น ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่เน้นความ คุ้มค่า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 2.299 ล้านบาท หรือลดลงจากรุ่นเดิมประมาณ 100,000 บาท
ในส่วนของแบรนด์มินิ จะเปิดตัว MINI 50 Mayfair และ MINI 50 Camden รุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นมาในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ โดยตั้งราคาจำหน่าย 2.6 ล้านบาทและ 3 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ บริษัทยังจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเมืองไทย สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ BMW X1 ที่เพิ่งได้รับรางวัล ‘Off-Road of the Year’ ในคลาส Crossover จุดเด่นของ BMW X1 คือการที่มันเป็นรถแบบ Crossover ที่เน้นความสปอร์ตคล่องตัวอย่างมีสไตล์ ราคาอยู่ระหว่าง 3.5-3.8 ล้านบาท ในส่วนของมินิ ก็จะมีการจัดแสดงรถยนต์มินิรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี MINI 50 Mayfair และ Camden ซึ่งกำลังจะหยุดการผลิตในไม่ช้านี้ พร้อมกับการเปิดตัว BMW S 1000 RR ซึ่งเป็นซูเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู การบุกตลาดอย่างครบทุกเซ็กเมนต์ในปีนี้ ทำให้บริษัทคาดว่า จะมียอดขายเติบโตไม่น้อยกว่า 10 %
“หลังจากความสำเร็จของ BMW 740Li และ BMW 730Ld ซึ่งเป็นสุดยอดรถยนต์ระดับซูเปอร์ซาลูนสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยูได้เสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ระดับซูเปอร์ซาลูนด้วย BMW 730Li เครื่องยนต์เบนซินที่ให้สมรรถนะสูง ที่สามารถใช้พลังงานทางเลือกแก๊สโซฮอล์ E20 ได้แล้ว มันยังเป็นรถระดับซูเปอร์ซาลูนที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีที่สุดในคลาสคันหนึ่ง โดยตั้งราคาจำหน่ายเพียง 7.299 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาแนะนำสำหรับ 100 คันเท่านั้น และมีราคาถูกกว่าคู่แข่ง ประมาณ 500,000 บาท ”
ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยัง BMW 325i Sport สุดยอดแห่งสปอร์ตซีดานที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics และสามารถใช้พลังงานทางเลือกแก๊สโซ ฮอล์ E20 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 218 แรงม้า ผลิตมาจำนวนจำกัดเพียง 48 คันนี้ ในราคา 3.799 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทยังเปิดตัว BMW 318i รุ่นเริ่มต้น ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่เน้นความ คุ้มค่า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 2.299 ล้านบาท หรือลดลงจากรุ่นเดิมประมาณ 100,000 บาท
ในส่วนของแบรนด์มินิ จะเปิดตัว MINI 50 Mayfair และ MINI 50 Camden รุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นมาในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ โดยตั้งราคาจำหน่าย 2.6 ล้านบาทและ 3 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น